facebook

การทดลองรับ วิตามินรวมและแร่ธาตุในช่วงเวลา 1 ปี

ผลการศึกษาพบว่า อุบัติการณ์ของการเจ็บป่วยที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อในผู้ที่ได้รับวิตามินและแร่ธาตุเสริม มีน้อยกว่าในกลุ่มที่ไม่ได้รับ วิตามินและแร่ธาติเสริม

นายแพทย์โรเบิร์ต เอช เฟลตเชอร์ และนายแพทย์แคทลีน เอ็ม แฟร์ฟิลด์ (Robert H. Fletcher and Kathleen M. Fair field) จากวิทยาลัยแพทย์ ฮาร์วาร์ดและวิทยาลัยสาธารณสุขฮาร์วาร์ด ได้ตีพิมพ์ผลงานลงวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน (The Journal of the American Medical Association) โดยแนะนำว่าผู้ใหญ่ควรรับประทานวิตามินรวมเพื่อเสิรมอาหารวันละ 1 เม็ด จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคกระดูกพรุน

การศึกษาในศูนย์แพทย์ 2 แห่งในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้ผู้เข้าร่วมการทดลองจำนวน 158 รายได้รับวิตามินรวมและแร่ธาตุในช่วงเวลา 1 ปี ผลการศึกษาพบว่าอุบัติการณ์ของการเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับการติดเชื้อ ของผู้ที่ได้รับฯ คิดเป็นเพียง 48% ซึ่ง มีน้อยกว่า ในกลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับฯ คิดเป็นการเจ็บป่วยถึง 73%

รายงานการหยุดงาน ของผู้ได้รับวิตามินฯ คิดเป็นเพียง 21% ซึ่ง ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับวิตามินฯ คิดเป็น 57% ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งมักมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำอยู่แล้ว โดยพบว่าผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่ได้รับวิตามินและแร่ธาตุเสริม มีรายงานการติดเชื้อถึง 93% แต่ถ้าได้รับวิตามินแร่ธาตุเสริม จะติดเชื้อเพียง 17% เท่านั้น

ผลสรุปนี้ชี้ให้เห็นว่า การรับประทานวิตามินรวมและแร่ธาตุเสริม สามารถลดอุบัติการณ์ของการติดเชื้อและการลาหยุดงานจากสาเหตุการติดเชื้อลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งผลการศึกษานี้สามารถเป็นแนวทางการดูแลร่างกายของคนที่ต้องการทำงานหนักทุกวันให้มีโอกาสมีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมต่อสู้กับการทำงาน

ข้อดีอีกอย่างหนึ่ง ในการรับประทาน วิตามินแร่ธาตุรวมในเม็ดเดียว หรือเป็นเจลแบบซองเดียว ซึ่งมีความสะดวกอยู่แล้ว คือ มีราคาถูกกว่า วิตามินที่แยกชนิดละเม็ด

ข้อด้วยของวิตามินแร่ธาตุรวมชนิดเม็ด ตรงที่ปริมาณความต้องการของแต่ละคนแตกต่างกัน ด้วยเหตุที่แต่ละคนรับประทานอาหารแตกต่างกัน สารอาหารที่ได้รับจากอาหารก็ไม่เท่ากัน เพศ วัย กิจกรรม ของแต่ละคนก็ต่างกัน ส่งผลให้ความต้องการสารอาหารของแต่ละคนไม่เท่ากัน สตรีช่วงที่มีประจำเดือนจะต้องการธาตุเหล็กสูงกว่าชายสูงอายุ เป็นต้น และในบางกรณีที่ได้รับวิตามินบางอย่างเพียงพออยู่แล้ว แต่ยังเสริมด้วยเม็ดวิตามินรวมเข้าไปอีก ซึ่งหากได้รับเกินติดต่อกันเป็นเวลานานก็จะเป็นพิษ เช่น วิตามินเอ และ แคลเซี่ยมเป็นต้น

ดังนั้น วิตามินและเกลือแร่รวมจึงไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน และเวลาเลือกซื้อควรพิจารณาสัดส่วนของ วิตามินที่ละลายได้ในไขมันคือ วิตามิน เอ ดี อี เค เบต้าแคโรทีน (A, D, E, K, Beta Carotene) ให้มีปริมาณครึ่งหนึ่งของที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน (RDI) เพราะวิตามินที่ละลายได้ในไขมันจะมีการสะสมในร่างกาย ส่วนวิตามินที่ละลายได้ในน้ำเช่น วิตามินบีทุกชนิด และวิตามิน ซี (All Vitamin B, Vitamin C) หากได้รับเกินกว่าที่ร่างกายต้องการก็ไม่ค่อยเกิดโทษ เพราะร่างกายจะขับวิตามินที่เกินออกทางปัสสาวะ ดังนั้นสามารถรับประทานวิตามินที่ละลายได้ในน้ำในปริมาณเท่ากับที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวันหรือ 100% RDI ก็จะปลอดภัย

 

สัดส่วนวิตามินแร่ธาตุตามมาตราฐานต่อวัน (RDI) ปริมาณ RDI ที่เพียงพอต่อร่างกายในหนึ่งวัน (RDI) จากวิตามินแร่ธาตุร่วมแบบเจลดูดซึมเร็ว
    • เบต้าแคโรทีน/แคโรทีนอยด์ – 5,000-15,000 IU
    • วิตามิน B1: 1.2 – 50 mg
    • วิตามิน B2: 1.3 – 50 mg
    • วิตามิน B3: 16 – 50 mg
    • วิตามิน B6: 1.3 – 50 mg
    • วิตามิน B12: 2.4 – 50 mg
    • กรด Folic: 400-800 µg
    • ไบโอติน: 30 µg
    • กรด Pantothenic: 5 mg
    • วิตามิน C: 90 – 250 mg
    • วิตามิน D: 400 – 1000 IU
    • วิตามิน E: 200 – 400 IU
    • แคลเซียม: 125 – 250 mg
    • สังกาสี (Zinc): 8 – 15 mg
    • ทองแดง ​(Copper): 1 – 2 mg
    • โครเมียม (Chromium): 25 – 120 µg
    • ซีลีเนียม (Selenium) 55 – 200 µg
    • แมงกานีส (Manganese) 1 – 5 mg
    • ไอโอดีน (Iodine) 150 µg
    • โมบิลดีนัม (Molybdenum) 45 µg
MIN ส่วนประกอบ

 

คำแนะนำ
หากคุณไม่สามารถรับประทานให้ได้ครบทั้ง 5 หมู่ใน 1  วัน ก็จำเป็นต้องเสริมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ที่สะดวกรวดเร็ว สอดคล่องกับชีวิตที่เร่งรีบของสังคมคนเมืองในปัจจุบัน จึงควรรับประทาน แบบที่เป็น เจลสกัดเข้มข้นดูดซึมเร็ว ภายใน 15 วินาทีคุณจะได้วิตามินและแร่ธาตุครบเพียงพอต่อหนึ่งวัน (RDI)

มิน MIN วิตามินแร่ธาตุเพียงพอต่อหนึ่งวัน RDIมิน MIN โปรโมชั่น โปรซื้อ 3 แถม 2


แหล่งข้อมูล คู่มืออาหารเสริมฉบับสมบูรณ์